บ้านมือสองราคาถูก อาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการบ้านในงบประมาณจำกัด แต่การซื้อบ้านประเภทนี้มาพร้อมกับ ความเสี่ยงที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เช่น สภาพบ้าน ความถูกต้องของเอกสาร และภาระผูกพันต่าง ๆ
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปดู สิ่งที่ต้องตรวจสอบก่อนซื้อบ้านมือสองในราคาถูก เพื่อให้คุณได้บ้านที่คุ้มค่า ปลอดภัย และไม่มีปัญหาตามมาภายหลัง
1. ตรวจสอบโครงสร้างบ้านและสภาพภายนอก
โครงสร้างหลักของบ้าน
✅ ตรวจสอบ รอยแตกร้าวของผนังและพื้นบ้าน – ถ้ามีรอยร้าวใหญ่ อาจเป็นสัญญาณของโครงสร้างที่มีปัญหา
✅ ดู เสาบ้านและคาน – ควรมั่นใจว่าไม่มีการแตกร้าวหรือทรุดตัว
✅ ตรวจสอบ หลังคาและฝ้าเพดาน – ดูว่ามีรอยรั่วซึมหรือไม่ โดยเฉพาะจุดที่ติดกับท่อและรางน้ำ
ระบบน้ำและไฟฟ้า
✅ เปิดสวิตช์ไฟทุกจุด – ตรวจสอบว่าไฟติดครบทุกจุดหรือไม่
✅ เปิดก๊อกน้ำและชักโครก – ดูว่าแรงดันน้ำเป็นปกติหรือไม่ มีน้ำรั่วซึมหรือไม่
✅ ตรวจสอบระบบท่อ – มีกลิ่นเหม็นจากท่อน้ำทิ้งหรือไม่
พื้นที่รอบบ้าน
✅ เช็กรั้วและประตูบ้าน – อยู่ในสภาพดีหรือไม่ จำเป็นต้องซ่อมหรือไม่
✅ ดูทิศทางของบ้าน – บ้านหันไปทางทิศไหน แดดเข้าตรงจุดไหน มีลมพัดผ่านหรือไม่
2. ตรวจสอบเอกสารและกรรมสิทธิ์ให้ถูกต้อง
✅ ตรวจสอบโฉนดที่ดิน (เอกสารสิทธิ์)
- ขอสำเนาโฉนดจากผู้ขายเพื่อตรวจสอบกับกรมที่ดินว่าไม่มีปัญหาคดีความ
- ตรวจสอบว่าที่ดินมีขนาดตรงกับที่แจ้งไว้หรือไม่
✅ เช็กภาระผูกพันของบ้าน
- บ้านติดภาระจำนองกับธนาคารหรือไม่
- มีการเวนคืนหรือข้อพิพาทใด ๆ อยู่หรือเปล่า
✅ ตรวจสอบค่าภาษีและค่าส่วนกลาง
- มีค่าภาษีหรือค่าส่วนกลางที่ค้างจ่ายหรือไม่
- ถ้าเป็นบ้านในโครงการ ต้องเช็กว่าเจ้าของเก่าจ่ายครบหรือยัง
✅ ตรวจสอบชื่อเจ้าของบ้าน
- บ้านเป็นของผู้ขายจริงหรือไม่ หรือต้องมีบุคคลอื่นลงนามร่วม
3. วิเคราะห์ราคาบ้านว่าคุ้มค่าหรือไม่
เปรียบเทียบราคากับตลาด
✅ ตรวจสอบราคาบ้านมือสองในทำเลเดียวกัน
✅ ดูว่าราคาถูกกว่าตลาดมากเกินไปหรือไม่ (อาจมีปัญหาซ่อนอยู่)
ประเมินค่าซ่อมแซม
✅ คำนวณค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ซ่อมหลังคา เปลี่ยนพื้น ปรับปรุงระบบน้ำไฟ
✅ หากต้องซ่อมแซมเยอะ อาจไม่คุ้มกับราคาซื้อ
ศักยภาพของทำเล
✅ อยู่ในทำเลที่ดีหรือไม่ ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ตลาด โรงเรียน โรงพยาบาล
✅ มีโครงการพัฒนาที่อาจทำให้มูลค่าบ้านเพิ่มขึ้นในอนาคตหรือไม่
4. เช็กประวัติบ้านและความเป็นมาของผู้ขาย
สอบถามเหตุผลที่ขายบ้าน
✅ ถามผู้ขายว่าทำไมถึงขายบ้าน – อาจเป็นเพราะมีปัญหาบางอย่าง เช่น น้ำท่วม เสียงดัง หรือปัญหาเพื่อนบ้าน
ตรวจสอบประวัติบ้าน
✅ บ้านเคยถูกใช้เป็นที่อยู่อาศัย หรือเคยเป็นสำนักงานหรือโรงงานมาก่อน
✅ บ้านเคยมีประวัติอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์หรือไม่
เช็กสภาพแวดล้อมและเพื่อนบ้าน
✅ ลองเดินสำรวจรอบ ๆ บ้านว่ามีเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรหรือไม่
✅ เช็กว่าพื้นที่โดยรอบมีปัญหาอาชญากรรม หรือปัญหาน้ำท่วมหรือไม่
5. ทำสัญญาซื้อขายให้รัดกุม
ตรวจสอบเงื่อนไขในสัญญา
✅ ระบุราคาซื้อขายให้ชัดเจน
✅ กำหนดวันโอนกรรมสิทธิ์และค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่าย
เช็กค่าธรรมเนียมและภาษีที่ต้องจ่าย
✅ ภาษีที่ต้องชำระมีอะไรบ้าง เช่น ภาษีธุรกิจเฉพาะ อากรแสตมป์ ภาษีเงินได้
✅ ใครเป็นผู้รับผิดชอบค่าธรรมเนียมโอน – ผู้ซื้อหรือผู้ขาย
ทำธุรกรรมที่กรมที่ดิน
✅ ดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ที่กรมที่ดินโดยตรง
✅ อย่าโอนเงินทั้งหมดก่อนการโอนกรรมสิทธิ์เสร็จสิ้น
6. บ้านมือสองราคาถูก เหมาะกับใครบ้าง?
✔ คนที่ต้องการบ้านราคาประหยัด และยอมรับการปรับปรุงบ้านบางส่วน
✔ นักลงทุนที่ต้องการรีโนเวทบ้านแล้วขายต่อเพื่อทำกำไร
✔ คนที่ต้องการบ้านในทำเลที่ดีแต่ไม่มีงบซื้อบ้านใหม่
✔ ผู้ที่ชอบบ้านที่มีโครงสร้างแข็งแรง และอยากปรับแต่งให้เป็นสไตล์ของตัวเอง
สรุป ซื้อบ้านมือสองราคาถูก ต้องตรวจสอบอะไรบ้าง?
✔ เช็กโครงสร้างบ้าน – ดูรอยร้าว ระบบน้ำ ไฟ และสภาพโดยรวม
✔ ตรวจสอบเอกสารสิทธิ์และกรรมสิทธิ์ – ให้มั่นใจว่าถูกต้องและไม่มีปัญหาคดีความ
✔ วิเคราะห์ราคาว่าคุ้มค่าหรือไม่ – เปรียบเทียบกับตลาดและคำนวณค่าซ่อมแซม
✔ ศึกษาประวัติบ้านและผู้ขาย – ตรวจสอบเหตุผลที่ขายและเช็กสภาพแวดล้อม
✔ ทำสัญญาให้รอบคอบ – ระบุเงื่อนไขชัดเจนและโอนกรรมสิทธิ์อย่างถูกต้อง
บ้านมือสองอาจเป็นโอกาสดีสำหรับคนที่ต้องการบ้านในราคาถูก แต่ต้องตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นบ้านที่ดี คุ้มค่า และไม่มีปัญหาในอนาคต